ปัจจัยสำคัญ ประจำวันที่  04/04/59

- เปิดตลาดเช้านี้เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.37/40 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 112.70 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรเช้านี้ อยู่ที่ระดับ 1.1405/1409 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 1.1405 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 35.141 บาท/ดอลลาร์

- ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในสัปดาห์นี้ที่ 34.90-35.20 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาการเคลื่อนไหวของตลาดการเงินทั่วโลกช่วงต้นสัปดาห์ หลังรับรู้ตัวเลขตลาดแรงงานของสหรัฐฯ รวมถึงมุมมองคาดการณ์เกี่ยวกับแนวโน้มดอกเบี้ยสหรัฐฯ โดยระหว่างสัปดาห์น่าจะมีจุดสนใจอยู่ที่คำกล่าวของประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเฟด

- บอร์ดกนง.สั่งจับตาพิเศษ ห่วงนักลงทุนและสถาบันการเงินแห่ลงทุนในสินทรัพย์อื่นหนีดอกเบี้ยถูก ทำให้ประเมินความเสี่ยงการลงทุนต่ำกว่าที่ควร อาจสะสมความเปราะบางระบบการเงินไทย พบความเสี่ยงสูงขึ้นลงทุนในตลาดหุ้น-บอนด์-หุ้นกู้-กองทุนรวม โดยเฉพาะกองทุน FIF และกองทุนตลาดตราสารหนี้ที่มีลักษณะคล้ายเงินฝาก

- ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานว่า การปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐในเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ขยายตัว 4.8% มียอดคงค้างรวม 1.612 ล้านล้านบาท เป็นการขยายตัวในอัตราที่ชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือน ม.ค.ที่มีการขยายตัว 5.3%

- ธปท.ชี้แนวโน้มหนี้ครัวเรือนเริ่มชะลอลงเมื่อเทียบกับอดีตสูงมาก หวังการฟื้นตัวเศรษฐกิจและผลมาตรการรัฐจะช่วยสภาพคล่องรายได้ และความสามารถชำระหนี้ของครัวเรือน ประกาศล่าสุดไตรมาสสุดท้ายของปี 58 ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนแตะ 11.04 ล้านล้านบาท ทำให้ระดับหนี้ครัวเรือนขยับเป็น 81.5% ต่อจีดีพี

- กกพ.แย้มข่าวดี ค่าเอฟทีงวดใหม่ พ.ค.-ส.ค.59 ปรับลดลงมากกว่า 5 สตางค์ต่อหน่วย เป็นผลมาจากค่าเงินบาทราคาน้ำมันยอดการใช้ลด ด้าน สนพ.เผยพีกเดือน มี.ค.ที่ระดับ 27,242 เมกะวัตต์ ต่ำกว่าคาดการณ์ ย้ำทุกภาคส่วนช่วยกันลดใช้ไฟฟ้าต่อเนื่อง

- คลังแจง เม.ย.นี้ เตรียมเปิดตัวไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เล็งให้กองทุนวายุภักษ์กบข. ประเดิมซื้อหน่วยลงทุนก่อนหมื่นล้านบาท

- ซูเปอร์บอร์ดตรวจการบ้านแผนฟื้นฟูกิจการ 7 รัฐวิสาหกิจ สคร.ระบุ "เอสเอ็มอีแบงก์การบินไทย-กสท." ผการดำเนินงานดีขึ้น โดยเฉพาะเอสเอ็มอีแบงก์จ่อออกจากแผนฟื้นฟูมากที่สุด ด้าน ร.ฟ.ท.เตรียมเสนอขอลงทุนรถไฟฟ้าสายสีแดง-แอร์พอร์ตลิงค์เอง หลัง คนร.มีมติให้เข้าโครงการพีพีพี อ้างเจรจาเงินกู้กับไจก้าไว้แล้ว

-กระทรวงแรงงานสหรัฐรายงานว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 215,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค.ขณะที่อัตราการว่างงานขยับขึ้น 0.1% แตะระดับ 5.0% หลังจากทรงตัวที่ 4.9% ในเดือนก.พ. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2008

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อวันที่ 1 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนยังคงให้น้ำหนักกับการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แม้ว่าตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรของสหรัฐออกมาแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ก็ตาม

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลงเมื่อคืนวันที่ 1 เม.ย. เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการจำกัดเพดานการผลิต หลังจากซาอุดิอาระเบียออกมายืนยันว่า ซาอุดิอาระเบียจะตรึงกำลังการผลิตก็ต่อเมื่ออิหร่านและประเทศอื่นๆยอมปฏิบัติตาม โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิดร่วงลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 4% แตะที่ระดับ 36.79 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงทั้งสิ้น 6.8% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ ( BRENT ) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 4.1% แตะที่ 38.67 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงเกือบ 6%

- ธนาคารกลางจีน (PBOC) ทุ่มเงิน 3.95 แสนล้านหยวน (6.116 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) เข้าสู่ตลาดในช่วงวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ผ่านการทำข้อตกลงซื้อพันธบัตรโดยมีสัญญาขายคืน (reverse repo) อายุ 7 วัน ซึ่งเป็นกระบวนการที่ธนาคารกลางเข้าซื้อหลักทรัพย์จากธนาคารพาณิชย์โดยมีข้อตกลงที่จะขายคืนในอนาคต โดยสัญญา reverse repo ดังกล่าวมีการกำหนดผลตอบแทนไว้ที่ 2.25% เมื่อหักสัญญา reverse repo ที่ครบกำหนดไถ่ถอน มูลค่า 3.8 แสนล้านหยวนแล้ว จะมีเงินอัดฉีดเข้าตลาดสุทธิ 1.5 หมื่นล้านหยวน