ปัจจัยสำคัญ ประจำวันที่ 21/03/59

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 111.35 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 111.25 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1280 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวันศุกร์ที่อยู่ที่ระดับ 1.1270 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 34.8520 บาท/ดอลลาร์

- แบงก์คาด กนง.ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับเดิม 1.50% รอดูภาพการฟื้นตัวเศรษฐกิจ-เก็บกระสุนรับความผันผวนเงินทุน พร้อมเตรียมทบทวนปรับลดเป้าหมายจีดีพี-ส่งออก หลังการฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้

- ธนาคารกสิกรไทย ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทสัปดาห์นี้ (21-25 มี.ค.) ที่ 34.60-

34.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของกนง. (23 มี.ค.) และตัวเลขการส่งออกของไทยในเดือน ก.พ. ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญได้แก่ ยอดขายบ้านมือสอง ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.พ. ดัชนี PMI ภาคการผลิตของมาร์กิต (เบื้องต้น) เดือนมี.ค. รวมถึงจีดีพีไตรมาส 4/2558 (รายงานรอบสุดท้าย) นอกจากนี้ นักลงทุนน่าจะรอติดตามข้อมูล PMI ของอีกหลายๆ ประเทศด้วยเช่นกัน สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย

- คลังชงบ้านประชารัฐเข้า ครม. กู้ 700,000 บาท ผ่อนเดือนละ 3,000–4,500 บาท กู้ 1.5 ล้านบาท ผ่อน

เดือนละ 7,200–9,100 บาท เงื่อนไขต้องไม่เคยมีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยมาก่อน ขณะที่ผู้ประกอบการอสังหาฯรับภาระค่าเงินโอนและจดทะเบียนจำนองให้ รวมทั้งจ่ายส่วนกลางให้ปีที่ 1 บวกส่วนลดพิเศษไม่น้อยกว่า 2% จากราคาขายสุทธิ

- คลังเตรียมชง ครม.อนุมัติโครงการช้อป ช่วยชาติ ล็อต 2 นำค่าใช้จ่ายมาหักลดหย่อนภาษีในช่วง 2 สัปดาห์ของเทศกาลสงกรานต์ หวังกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศ หลังโครงการช้อปช่วยชาติ เมื่อปลายปีที่ผ่านมา ดันยอดภาษีมูลค่าเพิ่มได้เท่าตัวของภาษีที่ขอหักลดหย่อน เล็งออกมาตรการต่อเนื่องช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ขณะประเมินจีดีพีปีนี้อาจต่ำกว่าคาดการณ์ แต่เชื่อยังเกิน 3%

- คลังออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจก๊อกสาม แจกเงินข้าราชการ 1.5 หมื่นล้านบาท เน้นระดับล่างและกลางที่ไม่ได้เงินประจำตำแหน่ง ประมาณ 1 ล้านคน คาดให้ทันก่อนสงกรานต์หวังกระตุ้นการใช้จ่าย ชี้เป็นมาตรการเดียวกับช็อปช่วยชาติที่ประสบผลสำเร็จมาแล้ว

- นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ได้ลงมติเห็นชอบให้ไทยลดภาษีศุลกากรภายใต้ความตกลงว่าด้วยการค้าสินค้าเทคโนโลยีสารสนเทศ ภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ซึ่งเป็นความตกลงฉบับใหม่ที่มีการขยายขอบเขตการลดภาษีนำเข้า และเพิ่มจำนวนสินค้าให้มากขึ้น โดยไทยลดภาษีสินค้าไอที 524 รายการ เป็น 0% แต่จะมีระยะเวลาในการลดภาษีแตกต่างกัน และคาดว่าจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในวันที่ 1 ก.ค.59 อย่างไรก็ตามการเข้าร่วมลดภาษีในครั้งนี้จะเป็นประโยชน์กับไทย ทำให้เศรษฐกิจขยายตัว 0.66% และทำให้ไทยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้าสินค้าเหล่านี้เมื่อส่งออกไปประเทศที่เข้าร่วมข้อตกลงประมาณ 4,700 ล้านบาท

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) หลังมีรายงานว่าจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐเพิ่มขึ้น โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนเม.ย.ปิดปรับตัวลง 76 เซนต์ หรือ 1.89% แตะระดับที่ 39.44 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 34 เซนต์ หรือ 0.82% แตะระดับที่ 41.2 ดอลลาร์/บาร์เรล

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (18 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายสัญญาทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ภายหลังตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ นอกจากนี้ตลาดยังได้รับแรงกดดันเนื่องจากดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินสำคัญส่วนใหญ่ โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ปิดปรับตัวลง 10.7 ดอลลาร์ หรือ 0.85% แตะที่ระดับ 1,254.30 ดอลลาร์/ออนซ์