้น้ำมันขึ้นหลังรัสเซียแย้มพร้อมจับมือโอเปกลดผลิต หุ้นมะกันพุ่ง-ทองคงที่

 

        เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอชต์ - น้ำมันปิดบวกในวันพฤหัสบดี(28ม.ค.) หลังรัสเซียแย้มว่าอาจร่วมประชุมกับโอเปกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการลดกำลังผลิต ปัจจัยราคาพลังงานดันวอลล์สตรีทขยับขึ้น ส่วนทองคำปรับลดในกรอบแคบๆ

       

       สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ ปิดที่ 33.22 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 79 เซนต์ ปิดที่ 33.89 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งขยับขึ้นไปอยู่เฉียดๆ 36 ดอลลาร์

       

       สื่อมวลชนรัสเซียรายงานโดยอ้างคำพูดของนายอเล็กซานเดอร์ โนวัค รัฐมนตรีพลังงานระบุว่ามอสโกพร้อมเข้าร่วมในการประชุมของเหล่าประเทศสมาชิกโอเปก ซึ่งมีเป้าหมายในความเป็นไปได้ของการสร้างความร่วมมือระหว่างกัน

       

       เขาบอกด้วยว่าอาจมีการพิจารณาหารือเกี่ยวกับการลดกำลังผลิตลงสูงสุดประเทศละ 5 ปอร์เซ็นต์ ซึ่งจะช่วยบรรเทาภาวะอุปทานล้นตลาด

       

       อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันแกว่งตัวลงจากที่พุ่งทะยานในเบื้องต้น หลังมีตลาดมีข้อสงสัยในความเป็นไปได้ดังกล่าว โดยเหล่านักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส รีเสิร์ช ให้ความเห็นว่า "เรายังมีความสงสัยอย่างมากว่าการประชุมดังกล่าวจะได้ข้อสรุปที่น่าเชื่อถือเกี่ยวกับการตัดลดอุปทาน"

       

       "ด้วยเหตุนี้เราจึงมองว่ามันเป็นแค่ความพยายามเบี่ยงเบนความรู้สึกตลาด และเราไม่คาดหมายว่าจะมีการเปลี่ยนในความไม่สมดุลของตลาดอย่างเป็นรูปธรรม" นักวิเคราะห์ของบาร์เคลย์ส รีเสิร์ช ระบุ

       

       ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯเมื่อวันพฤหัสบดี(28ม.ค.) พุ่งแรง จากปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานหลังราคาน้ำมันปิดบวกอีกวัน และรายผลงานประกอบการของเฟซบุ๊กที่ช่วยดันหุ้นของบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่รายอื่นๆ

       

       ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 125.18 จุด (0.79 เปอร์เซ็นต์) ปิด 16,069.64 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 10.41 จุด (0.55 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,893.36 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 38.51 จุด (0.86 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,506.68 จุด

       

       เอ็กซอนโมบิล สมาชิกดาวโจนส์ปิดบวก 2.3 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเบเกอร์ ฮิวจ์ส บริษัทผู้ให้บริการทางพลังงาน พุ่งทะยาน 5.6 เปอร์เซ็นต์ แม้รายงานผลประกอบการขาดทุนถึง 1,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาส 4

       

       หุ้นของเฟซบุ๊กพุ่งทะยานถึง 15.5 เปอร์เซ็นต์ หลังรายงานผลประกอบการไตรมาส 4 มีกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าเป็น 1,600 ล้านดอลลาร์ จากจำนวนผู้ใช้บริการที่กำลังเฟื่องฟูและรายได้จากการโฆษณาทางออนไลน์ที่เพิ่มขึ้น

       

       ผลประกอบการของเฟซบุ๊ก ยังช่วยดันหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็น อะเมซอน และ อัลฟาเบท บริษัทแม่ของกูเกิล ที่ปิดบวก 8.9 เปอร์เซ็นต์ กับ 4.4 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ

       

       ส่วนทองคำในวันพฤหัสบดี(28ม.ค.) คงที่ ขณะที่ตลาดให้เหตุผลของการปิดลบว่าเป็นแรงต้านทางเทคนิค หลังจากราคาโลหะมีค่าชนิดนี้ ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 3 เดือนเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 20 เซนต์ ปิดที่ 1,115.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์