* ปัจจัยสำคัญ

- เงินเยนเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ระดับ 123.64/124.06 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 123.63 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1146/1189 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1228 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 33.7360 บาท/ดอลลาร์

- "เอดีบี" เผยตลาดบอนด์ตลาดเกิดใหม่ เอเชียตะวันออก กำลังเผชิญปัญหาสภาพคล่องต่ำ ส่งผลกระทบเงินทุนไหลออกหนักขึ้น เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงทั่วโลก "เฟดขึ้นดอกเบี้ย-ดอลลาร์แข็งค่า" ทำให้ตลาดอยู่ในภาวะตึงตัว

-  กนง.ประเมินแนวโน้มหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้น หลังมีการโอนหนี้จากนโยบายกึ่งการคลังผ่านแบงก์รัฐทั้งโครงการรับจำนำข้าว ประกันราคาพืชผล รบมทั้งภาระหนี้ค้างจ่ายเงินสมทบกองทุนประกันสังคมและรัฐวิสาหกิจต่างๆ แต่ยังดีที่เงินในกองทุนหมุนเวียนทยอยนำส่งสภาพคล่องส่วนเกินกลับเป็นรายได้แผ่นดินกว่า 3 หมื่นล้านบาท ช่วยลดแรงกดดัดเสถียรภาพภาคการคลัง

- นายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีคำสั่งให้กระทรวงการคลังไปดูแลการใช้เงินของโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของประเทศทั้งหมด ว่าโครงการไหนจะลงทุนเมื่อไรและจะใช้แหล่งเงินจากที่ใดบ้าง ซึ่งมีอยู่ 3 ทาง คือ การใช้เงินจากงบประมาณ จากการกู้ และจากการร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (พีพีพี) เพื่อบริหารให้การลงทุนของภาครัฐมีความต่อเนื่อง

- สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) คาดปีนี้ต่างชาติเดินทางมาไทยกว่า 29.51 ล้านคน โกยรายได้ทะลุ 1.4 ล้านล้านบาท ทัวร์จีนนำโด่งทุบสถิติเกิน 7 ล้านคน สวนทางยุโรป-รัสเซีย เสนอรัฐจัดระเบียบการเข้าชมแหล่งท่องเที่ยว

- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรายงานว่า ยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐเพิ่มขึ้นในเดือนพ.ค. สู่ระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี ซึ่งบ่งชี้ถึงแนวโน้มที่สดใสของตลาดที่อยู่อาศัยของสหรัฐ โดยยอดขายบ้านใหม่เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนพ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 546,000 ยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2551

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (23 มิ.ย.) หลังมีการรายงานยอดขายบ้านใหม่ในสหรัฐที่แข็งแกร่ง ซึ่งช่วยหนุนกระแสคาดการณ์ของตลาดเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้

- ขณะเดียวกัน นายเจโรม โพเวลล์ ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะผู้ว่าการของเฟด กล่าวเมื่อวานนี้ ภาวะเศรษฐกิจของสหรัฐอาจมีความพร้อมสำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ย.นี้ ตามมาด้วยการปรับขึ้นอีกครั้งในเดือนธ.ค.

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐจะปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนส.ค.เพิ่มขึ้น 63 เซนต์ ปิดที่ 61.01 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 1.11 ดอลลาร์ ปิดที่ 64.45 ดอลลาร์/บาร์เรล

- นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกว่า กรีซและกลุ่มเจ้าหนี้จะสามารถตกลงกันได้ในสัปดาห์นี้ หลังจากนายเจอโรน ดิจเซลโบลม ประธานยูโรกรุ๊ปกล่าวว่า ข้อเสนอใหม่จากรัฐบาลกรีซที่เพิ่งได้รับล่าสุดนั้น ถือเป็นขั้นตอนในเชิงบวกในกระบวนการแก้ไขปัญหาหนี้กรีซ และอาจมีการบรรลุข้อตกลงภายในสัปดาห์นี้

- สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (S&P) ระบุว่า S&P คาดการณ์ว่า กรีซจะยังคงอยู่ในยูโรโซน และสหภาพยุโรปในช่วงสิ้นปีนี้ ถึงแม้ว่าการบรรลุข้อตกลงกับเจ้าหนี้จะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาของประเทศก็ตาม

การประชุมรัฐมนตรีคลังยูโรโซน หรือยูโรกรุ๊ป เกี่ยวกับหนี้กรีซได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวานนี้ โดยที่ประชุมให้การขานรับต่อข้อเสนอของกรีซ แต่ก็ขอเวลาเพื่อศึกษารายละเอียดในข้อเสนอดังกล่าว เพื่อพิจารณาว่าจะผ่านความเห็นชอบหรือไม่ โดยรัฐมนตรีคลังยูโรโซนจะประชุมกันอีกครั้งในวันที่ 24 มิ.ย.นี้ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการประชุมสุดยอดสหภาพยุโรปนัดที่ 2 ในวันที่ 25 มิ.ย.นี้

ขอบคุณเครดิตข่าวเศรษฐกิจและติดตามอ่านต่อได้ที่เว็บ :  http://www.ryt9.com/