Gold Field Refinery <
ข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน

      หยิบเงินหยิบทองวันนี้
หยิบเงินหยิบทองวันนี้


กลยุทธ์วันนี้

Commodities Rebound

ตลาดหุ้นวานนี้:

ตลาดหุ้นไทยวานนี้ ถูกกดดันจากประเด็นลบเรื่อง CG ของหุ้น CPALL ส่งผลให้กลุ่มค้าปลีกปรับตัวลงหนักสุดวานนี้ และฉุด SET INDEX ให้ปรับฐานลง รวมทั้งบรรยากาศรอบเอเชียต่างซึมตัวลง จากแรงกดดันของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก 

อย่างไรก็ตาม SET INDEX เกิด Technical Rebound ในช่วงครึ่งชั่วโมงสุดท้ายของการซื้อขายจากการฟื้นตัวของหุ้นหลัก เช่น SCC, ADVANC, PTT ส่งผลให้ตลาดปิดในแดนบวกได้ที่ 1,340.62 จุด เพิ่มขึ้น 1.17 จุด หรือ +0.09% มูลค่าการซื้อขาย 4.32 หมื่นล้านบาท


ปัจจัยสำคัญวันนี้

• ผลการประชุม ECB มีการขยายมาตรการอัดฉีดสภาพคล่อง ได้แก่ คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.05%, ลดดอกเบี้ยเงินฝากลงจาก -0.2% เป็น -0.3% และขยายอายุโครงการ QE ออกไปอีก 6 เดือนจากสิ้นสุด ก.ย.2559 เป็น มี.ค. 2560 อย่างไรก็ตาม ยังคงวงเงิน QE ต่อเดือนที่ 6 หมื่นล้านยูโร ผิดคาดของตลาดที่คาดว่าจะขยายวงเงิน QE เป็น 7.5 -8.0 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน


• ติดตามตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ในคืนนี้

• งาน Thailand Focus สิ้นสุดวันนี้

• การประชุม OPEC ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคาน้ำมันดิบ โดยตลาดคาดว่า OPEC จะคงกำลังการผลิตน้ำมัน


ปัจจัยสำคัญ 2 สัปดาห์หน้า

• การประชุม ครม.เพื่อพิจารณาแผนการควบรวม BECL และ BMCL รวมถึงโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

• ติดตามการประมูล E-Auction โครงการรถไฟรางคู่ เส้นทาง จิระ – ขอนแก่น

• การประชุมกนง. วันที่ 16 ธ.ค. เราคาดคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 1.5%

• การประชุมเฟด วันที่ 16 ธ.ค. ตลาดคาดเฟดขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 0.25% จากปัจจุบัน 0.00%

• และช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวของตลาดหุ้นไทย


มุมมองต่อตลาด

เราคงมุมมองการลงทุนเป็น “กลาง” วันที่ 14 แม้ว่าตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐฯจะปรับฐานลงแรงเมื่อคืนนี้ หลัง ECB คงวงเงิน QE ที่เดือนละ 6 หมื่นล้านยูโร ต่ำกว่าคาดการณ์ของตลาดที่คาดว่าจะเพิ่มวงเงิน QE ขึ้นเป็น 7.5-8 หมื่นล้านยูโรต่อเดือน แต่ตลาดหุ้นเอเซียที่ Underperform ตลาดหุ้นยุโรป-สหรัฐฯ อย่างมากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา จึงคาดว่าจะได้รับผลกระทบเชิงลบค่อนข้างจำกัด

การแข็งค่าขึ้นของค่าเงินยูโรเมื่อเทียบกับค่าเงินสหรัฐฯ หลังทราบผลการประชุม ECB ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ราคาน้ำมันดิบดีดกลับเมื่อคืนนี้จะเป็นอีกปัจจัยหนุนให้หุ้นกลุ่มพลังงาน - ปิโตรเคมี ฟื้นตัวได้ รวมทั้งติดตามผลการประชุม OPEC
ดังนั้น คาดว่าหาก SET INDEX เปิดย่อตัวลงในช่วงแรกของการซื้อขาย จะมีโอกาสฟื้นตัวได้จากหุ้นกลุ่มหลัก ได้แก่ พลังงาน - ปิโตรเคมี - ธนาคาร - รับเหมาก่อสร้าง ในกรอบ 1330 – 1345 จุด

อย่างไรก็ตาม คาดว่ามูลค่าการซื้อขายจะเบาบาง เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงคาบเกี่ยววันหยุดยาวในสัปดาห์หน้าส่งผลให้ภาพตลาดโดยรวมมีทิศทางชะลอตัว


กลยุทธ์การลงทุน

สำหรับหนักลงทุนระยะสั้น แนะนำให้ซื้อเก็งกำไรรายกลุ่มที่มีปัจจัยบวก เช่น กลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่มีปัจจัยบวกเด่นในสัปดาห์หน้า ได้แก่ การประมูล E-Auction โครงการรถไฟฟ้ารางคู่ และการอนุมัติแผนลงทุนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ขณะที่นักลงทุนระยะกลาง – ยาว แนะนำสะสมหุ้นหลักในกลุ่มธนาคาร เช่น KTB, KBANK,SCB เนื่องจากคาดว่าจะเป็นกลุ่มที่ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าตลาดหลังทราบผลการประชุมเฟดในวันที่ 15-16 ธ.ค. และเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์โดยตรงจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปี 2559 พร้อมทั้งได้แรงหนุนจากเม็ดเงิน LTF ที่ไหลเข้าในเดือน ธ.ค.


Top Pick in 4Q15: BMCL / ITD/ TMB/ TPIPL

HOLD: ITD / TPIPL/ WHA/ IFEC/ INTUCH/ KTB/ BMCL

Accumulative Buy: CK


 
Privacy Policy
Cookies Policy
บริษัท โกลด์ ฟิลด์ รีไฟเนอรี จำกัด 14 ซอยสุขาภิบาล2 ซอย31 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250 โทร. 0-2035-3888 แฟกซ์ 0-2035-3898