** ปัจจัยสำคัญ ประจำวันที่ 26/11/58 **

- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 122.63 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 122.60 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.0619 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0605 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของ ธปท.อยู่ที่ระดับ 35.6820 บาท/ดอลลาร์

- "คลัง" เตรียมเสนอนายกฯ ลงนามตั้งบอร์ดพัฒนาตลาดทุน ชู "อภิศักดิ์" เป็นประธาน เดินหน้าทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทยระยะ 10 ปี (2559-2569) คาดแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ ตั้งเป้าพัฒนาไทยเป็นศูนย์กลางระดมทุนในกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี

- กองทุนฟื้นฟูฯ จ่ายคืนหนี้รัฐ 2.34 พันล้านบาทงวดแรกภายใต้การบริหารหนี้ของปีงบประมาณ เก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินมาจ่ายดอกเบี้ยหนี้พันธบัตร FIDF1 และ FIDF3 ทำให้เงินต้นเหลือ 9.99 แสนล้านบาท มั่นใจภายใน 3 ปีนี้ไม่มีปัญหาจ่ายคืนเงินต้นและดอกเบี้ยแน่นอน

- "พาณิชย์" เจรจาญี่ปุ่นเพิ่มนำเข้าข้าวคุณภาพดี ป้อนตลาดคนรักสุขภาพ มั่นใจเจาะตลาดได้เพิ่มขึ้นแน่ พร้อมทวงถามการเปิดตลาดมะม่วงให้ไทย เผยล่าสุดอยู่ระหว่างตรวจสอบ ด้านญี่ปุ่นยันเข้า TPP ไม่กระทบการนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย ยันพร้อมหนุนไทยเข้าร่วมวงด้วย

- นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการปฏิรูปภาษี เปิดเผยว่า นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้เสนอแผนปฏิรูปภาษีทั้งหมดภายในเดือน ธ.ค.นี้ ซึ่งจะมีรายละเอียดของภาษีต่างๆ ที่จะต้องดำเนินการภายในปีหน้า โดยจะกำหนดเวลาให้มีผลบังคับใช้อย่างมีความเหมาะสม เพื่อไม่ให้กระทบกับผู้ที่เกี่ยวข้องและเศรษฐกิจ

- คลังมั่นใจรายได้ปีงบประมาณ 2559 วงเงิน 2.35 ล้านล้านบาท ทำได้ตามเป้า เพราะส่วนหนึ่งจะมีเงินจากการประมูล 4 จี มาเป็นรายได้ด้วย ส่วนปีหน้าใช้แน่ภาษีบ้าน-ที่ดิน รวมถึงภาษีสิ่งแวดล้อม แต่ต้องดูเวลาการประกาศเพื่อไม่ให้มีผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

- นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน เปิดเผยว่า ขณะนี้อัตราราคาปิดกำไรต่อหุ้น (พีอี) ของตลาดหุ้นไทยอยู่ในระดับสูงทำให้ราคาหุ้นถือว่าอยู่ในช่วงราคาแพง หลังจากกำไรบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 3 ปรับตัวลดลงถึง 87% เนื่องจากบันทึกรายการพิเศษของกลุ่มพลังงานและธนาคารพาณิชย์รวมถึงการขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนในหลายบริษัท แต่หากประเมินกำไรการดำเนินงานตามปกติจะสะท้อนว่ากำไรรวมปรับตัวลดลงไม่มากนักและคาดว่าปีนี้กำไรบริษัทจดทะเบียนไทยจะเติบโตได้ 5%

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ เพราะได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ และจากการที่นักลงทุนคลายความวิตกจากสถานการณ์รุนแรงในตะวันออกกลาง โดยสัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ธ.ค.ลดลง 3.8 ดอลลาร์ หรือ 0.35% ปิดที่ระดับ 1,070.00 ดอลลาร์/ออนซ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส(WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งข้อมูลดังกล่าวช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานที่สูงเกินไป โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 17 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 43.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน ม.ค.เพิ่มขึ้น 5 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 46.17 ดอลลาร์/บาร์เรล

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบสกุลเงินยูโรเมื่อคืนนี้ ขณะที่ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐส่วนใหญ่ได้ช่วยหนุนคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด) ในเดือนหน้า โดยค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0617 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0650 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.5128 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.5087 ดอลลาร์สหรัฐ ส่วนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวขึ้นเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 122.72 เยน จาก 122.46 เยน และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 1.0218 ฟรังก์ จาก 1.0152 ฟรังก์ และค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7253 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7246 ดอลลาร์

อ่านต่อได้ที่ : http://www.ryt9.com