Gold Field Refinery <
ข่าวเศรษฐกิจและการลงทุน

      เงินบาทเปิด 35.60 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอติดตามผลประชุมเฟด




เงินบาทเปิด 35.60 แนวโน้มแกว่งกรอบแคบ รอติดตามผลประชุมเฟด

นักบริหารเงิน เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดที่ระดับ 35.60 บาท/ดอลลาร์ จากเย็นวันพฤหัสบดีที่ 22 ต.ค.ที่ปิดตลาดที่ระดับ 35.62 บาท/ดอลลาร์

"มี Movement จากฝั่ง Offshore หลังจากที่เราหยุดไป 3 วัน มี Player บางๆ ทำให้โดนลากไป ส่งผลให้เงินบาทขึ้นทำ High ที่ 35.65 และ ทำ Low 35.35 บาท/ดอลลาร์ ส่วนทิศทางวันนี้น่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ รอปัจจัย FOMC วันที่ 27-28 ต.ค." นักบริหารเงิน กล่าว

ประเมินกรอบการเคลื่อนไหววันนี้ระหว่าง 35.50-35.65 บาท/ดอลลาร์
* ปัจจัยสำคัญ
- เงินเยนอยู่ที่ระดับ 121.20 เยน/ดอลลาร์ จากเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ปิดตลาดที่ระดับ 119.74 เยน/ดอลลาร์

- เงินยูโรอยู่ที่ระดับ 1.1025 ดอลลาร์/ยูโร จากเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ปิดตลาดที่ระดับ 1.1311 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารอยู่ที่ระดับ 35.6090 บาท/ดอลลาร์

- ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ (26-30 ต.ค.) ที่ 35.50-35.90 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ สัญญาณเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ จากผลการประชุม FOMC (27-28 ต.ค.) และข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ อาทิ ยอดขายบ้านใหม่ ยอดทำสัญญาณซื้อบ้านที่รอปิดการขาย ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ย. ดัชนีราคาบ้านเดือนส.ค. ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ดัชนี PMI ภาคบริการ (เบื้องต้น) เดือนต.ค. และจีดีพีไตรมาส 3/58 (Advance est.)

นอกจากนี้ ตลาดอาจติดตามผลการประชุม BOJ การประชุมคณะกรรมการกลางของพรรคคอมมิวนิสต์จีน (ซึ่งจะจัดทำแผนพัฒน์ฯ ฉบับที่ 13) ตลอดจนข้อมูลการค้าระหว่างประเทศและเครื่องชี้เศรษฐกิจไทยในเดือนก.ย. ด้วยเช่นกัน

- นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการ และคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต คาดว่าตลาดการเงินโลกและตลาดหุ้นทั่วโลกจะปรับตัวในทิศทางขาขึ้นในช่วงไตรมาส 4/58 เป็นผลทั้งจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 6 ในรอบปีของธนาคารกลางจีนและการลดการกันสำรองของธนาคารพาณิชย์  (RRR) นอกจากนี้ยังคาดว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) น่าจะตัดสินใจดำเนินมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ(QE) มากเป็นพิเศษ โดยการเข้าซื้อสินทรัพย์และตราสารทางการเงินเพิ่มเติมในเร็วๆนี้ และ การทำ QE ครั้งใหม่นี้น่าจะมีขนาดของเม็ดเงินที่ไม่น้อยกว่าเดิมและระยะเวลาอาจยืดยาวถึงปี 60

- เอกชนแนะมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐต้องทำอย่างต่อเนื่องในระยะยาว เหตุเศรษฐกิจไทย อาจซึมยาวเช่นญี่ปุ่น เพราะขีดความสามารถในการแข่งขันลดต่ำ แนะมาตรการเพิ่มกำลังซื้อที่ดีต้องลดหนี้ เพิ่มกำลังซื้อเช่น ยืดหนี้ หยุดผ่อนเงินต้นชั่วคราว ฯลฯ ชี้มาตรการกระตุ้นศก.ที่ทยอยออกมาดีแล้วแต่ต้องเข้มงวดบางโครงการที่อาจก่อหนี้ครัวเรือนเพิ่มโดยเฉพาะมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์หวั่นซ้ำรอยรถคันแรก

- ภาคเอกชนห่วงมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ของภาครัฐหนุนประชาชนกู้ซื้อบ้าน จะยิ่งเพิ่มหนี้สินครัวเรือน ฉุดกำลังซื้อในประเทศ หวั่นส่งผลกระทบในระยะยาวซ้ำรอยโครงการรถคันแรก แนะช่วยแก้ปัญหาหนี้สินเพิ่มเงินในมือประชาชนเหมาะสมกว่า เชื่อเศรษฐกิจไทยซึมยาวอีกนาน

- นายสุวิชญ โรจนวานิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2559 หรือช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ กระทรวงการคลังจะกู้เงินเพื่อชดเชยการขาดดุลงบประมาณจำนวน 2 แสนล้านบาท จากวงเงินกู้ที่ตั้งไว้ 3.9 แสนล้านบาท หรือมากกว่า 50% ของวงเงินทั้งหมด เพื่อใช้จ่ายในการลงทุนโครงการต่างๆ

- กูรูเศรษฐศาสตร์ชี้ เศรษฐกิจไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้วกำลังฟื้นตัว ดัชนีเชื่อมั่นกระเตื้องสูงสุดในรอบ 2 ปี สุดเชื่อมั่น 3-6 เดือนข้างหน้าสดใส

- สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงิน ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) หลังธนาคารกลางจีนประกาศลดดอกเบี้ย และธนาคารกลางยุโรปส่งสัญญาณกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลดลงเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) หลังดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้น ภายหลังจากที่ธนาคารกลางจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ย เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศที่กำลังชะลอตัว สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค.ปรับตัวลง 78 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 44.6 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ ราคาน้ำมันร่วงลงไปถึงเกือบ 6%

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงเมื่อคืนนี้ (23 ต.ค.) เพราะได้รับแรงกดดันจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังแบงก์ชาติจีนลดดอกเบี้ยและ RRR ประกอบการคาดการณ์จากนักลงทุนส่วนหนึ่งที่เชื่อว่า เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยเร็วๆนี้ ภายหลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลภาคการผลิตที่แข็งแกร่งเกินคาด สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค.ลดลง 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.28% ปิดที่ระดับ 1,162.80 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่งผลให้ตลอดสัปดาห์ ราคาทองร่วงลง 1.7%

- นายทาโร่ อาโสะ รัฐมนตรีกระทรวงคลังญี่ปุ่นแสดงจุดยืนที่เป็นลบเกี่ยวกับการผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มเติมของธนาคารกลางญี่ปุ่น แม้ว่า เงินเฟ้อของประเทศจะยังคงอยู่ที่ระดับต่ำ เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลง การแสดงความเห็นดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการคาดการณ์ในตลาดการเงินว่า แบงก์ชาติญี่ปุ่นอาจจะผ่อนคลายนโยบายในการประชุมด้านนโยบายวันที่ 30 ต.ค.นี้ เพื่อที่จะผลักดันให้เงินเฟ้อบรรลุเป้าหมายและยุติภาวะเงินฝืด

ขอบคุณข้อมูลจาก ryt9



 
Privacy Policy
Cookies Policy
บริษัท โกลด์ ฟิลด์ รีไฟเนอรี จำกัด 14 ซอยสุขาภิบาล2 ซอย31 แขวงดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพมหานคร 10250 โทร. 0-2035-3888 แฟกซ์ 0-2035-3898