** ปัจจัยสำคัญประจำวันที่ 25/09/58**

- เปิดตลาดเช้านี้ เงินเยนอยู่ที่ระดับ 120.15/17 เยน/ดอลลาร์ จากช่วงเย็นวานนี้ที่ระดับ 119.92/94 เยน/ดอลลาร์

- ส่วนเงินยูโร เช้านี้อยู่ที่ระดับ 1.1178/1180 ดอลลาร์/ยูโร จากช่วงเช้าเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.1200/1205 ดอลลาร์/ยูโร

- อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท.อยู่ที่ระดับ 36.2520 บาท/ดอลลาร์

- นักค้าเงินธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยว่า การเคลื่อนไหวเงินบาทเมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ปิดตลาดที่ระดับ 36.33 บาท/เหรียญสหรัฐ อ่อนค่าจากช่วงเช้าที่เปิด 36.23/25 บาท/เหรียญสหรัฐ ถือว่าอ่อนค่าทุบสถิติในรอบ 8 ปี 8 เดือนแล้ว เนื่องจากตลาดมีความเชื่อมั่นและต้องการเงินเหรียญสหรัฐมากขึ้น จากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐจะขึ้นดอกเบี้ยภายในปีนี้ บวกกับตลาดรอตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญๆ ของสหรัฐ ซึ่งหากออกมาดีก็จะยิ่งหนุนให้เงินเหรียญสหรัฐแข็งค่าต่อ ขณะที่เงินบาทและสกุลเงินในภูมิภาคอ่อนค่าลงต่อเนื่อง

- วันนี้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เตรียมแถลงรายงานนโยบายการเงิน ซึ่งต้องติดตามว่าในรอบนี้ ธปท.จะปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยจากรอบที่แล้วอย่างไร

- ธนาคารเพื่อการพัฒนาเอเชีย(ADB) ได้ปรับประมาณการอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทย (GDP) ในปีนี้เหลือโต 2.7% จากเดิมคาดโต 3.6% เนื่องจากได้รับผลกระทบการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และอุปสงค์ที่เบาบางลง ส่วนปี 59 คาดว่า GDP จะขยายตัวที่ 3.8% จากเดิมคาดโต 4.1% โดยมีปัจจัยการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐหนุน

- ธนาคารเอชเอสบีซี ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (จีดีพี) ของไทยในปีนี้ลงมาอยู่ที่ 2.61% จากคาดการณ์เดิมที่ 3.1% ซึ่งเป็นการปรับลดครั้งที่ 3 ของปีนี้แล้ว เนื่องจากการลงทุนที่เป็นหัวใจสำคัญต่อเศรษฐกิจไทยล่าช้ากว่าที่คาด

-  นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการปรับยุทธศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะการทำงานของทูตพาณิชย์ทั่วโลกเพื่อให้มุ่งเน้นเจาะเข้าตลาดรายเมือง ตลาดอาเซียน และค้าชายแดนมากขึ้น พร้อมกับปรับการทำงานของพาณิชย์จังหวัดและผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อเพิ่มศักยภาพจังหวัดให้มากขึ้นเพื่อผลักดันการส่งออกปี 2559 ให้กลับมาเป็นบวกจากที่ปีนี้จะติดลบ 3%

- ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (24 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรจากการทะยานขึ้นของดอลลาร์ในช่วงที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของตลาดสหรัฐและทั่วโลก

- ประธานเฟด ระบุว่า มีแนวโน้มที่จะมีความเหมาะสมในการเริ่มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะกลับมาสู่เป้าหมายที่ 2% ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้า เมื่อปัจจัยชั่วคราวที่กดดันเงินเฟ้อได้จางหายไป พร้อมกล่าวว่าภาวะอ่อนแอของเศรษฐกิจทั่วโลกไม่มีแนวโน้มจะมีนัยสำคัญมากพอที่จะส่งผลกระทบต่อนโยบายการเงินของเฟด

- สถาบัน Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเยอรมนีเดือนก.ย. ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 108.5 จุด จากระดับปรับทวนที่ 108.4 จุดของเดือนส.ค. ทั้งนี้ Ifo ระบุว่า ในเดือนส.ค. ภาคธุรกิจมองสถานการณ์ธุรกิจ ณ ปัจจุบันในเชิงลบกว่าเก่าเล็กน้อย แต่มีมุมมองเชิงบวกต่อสถานการณ์ธุรกิจในอนาคตมากขึ้น