แม้จะถูกเรียกว่า “Save Haven” แต่ราคาทองคำกลับมีอัตราการเปลี่ยนแปลงต่อวันสูงเมื่อเทียบกับทรัพย์สินทางการเงินอื่นๆ เช่น ค่าเงินบาท หรือดัชนีตลาดหุ้น นักลงทุนทองคำในประเทศส่วนใหญ่มองเห็นภาพเพียงการปรับตัวขึ้นในระยะยาวจนไม่ใส่ใจถึงจังหวะเข้าซื้อที่เหมาะสม ซึ่งในหลายครั้งเป็นการเข้าซื้อในช่วงที่มีการปรับตัวมาระดับหนึ่งแล้ว เมื่อราคาทองมีความผันผวนสูงการเข้าซื้อที่ผิดจังหวะมักทำให้เกิดภาวะขาดทุน

ความเชื่อของนักลงทุนในตลาดกับเหตุผลไม่ได้เป็นไปในทิศทางเดียวกันเสมอ ทั้งในแง่ความสัมพันธ์หรือที่เรียกว่า Market Correlation หลักการเบื้องต้นที่รับรู้เป็นการทั่วไปนั้นที่มองว่าราคาทองคำหรือสินค้าโภคภัณฑ์นั้นมักสวนทางกับค่าเงินดอลลาร์นั้นไม่จำเป็นเสมอไปในช่วงเวลาที่ตลาดมีประเด็นอื่น เช่น เหตุการณ์สงคราม หรือตลาดหุ้นเกิด Panic Sell ราคาทองคำมักปรับตัวขึ้นพร้อมๆกับการแข็งค่า

Sentiment ของตลาดทำให้ข่าวเดียวกันส่งผลต่อทิศทางราคาไม่เหมือนกัน เช่น ในปี 2009 ภาวะตลาดหุ้นปรับตัวลงแต่ทองคำปรับตัวขึ้น เมื่อมีข่าวที่ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นจะกลายเป็นปัจจัยบวกต่อทอง ในขณะที่ช่วงปี 2012-2013 ไม่ว่าข่าวจะบวกหรือลบต่อตลาดหุ้นก็จะส่งผลให้ทองปรับตัวลดลงตลอด ซึ่งเป็นเพราะตลาดมีความเชื่อที่ต่างกันออกไป ผลกระทบที่เกิดขึ้นจึงออกมาไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับสถานการณ์และความคาดหวังของตลาดในเวลานั้นๆ

สถานการณ์พร้อมเปลี่ยนได้เสมอ นักลงทุนทองคำส่วนใหญ่มักติดตามข่าวผ่านหน้าหนังสือพิมพ์ซึ่งมักจะลงในหน้าหนังสือพิมพ์ได้ในอีกวันหรือสองวันจากเหตุการณ์ที่เปลี่ยนไป การติดตามข่าวในยุคดิจิตอลนั้นมีทางเลือกมากขึ้นเข้าถึงข่าวสารข้อมูลได้ไวกว่าเดิม มูลค่าของข่าวอยู่ที่รู้ก่อนหรือรู้หลัง เร็วหรือช้า การมีแหล่งข่าวที่เชื่อถือได้และรวดเร็วทันเหตุการณ์ข้อมูลมีความสดใหม่เป็นสิ่งสำคัญ

ข้อมูลสำคัญอย่างเช่น ปริมาณของคำสั่งซื้อและคำสั่งขาย ซึ่งเป็นตัวกำหนดราคาตลาดของทองคำ หรือ การถือครองของกลุ่มต่างๆ เป็นต้น นักลงทุนทั่วไปไม่สามารถที่จะเข้าถึงได้ ในขณะที่สถาบันทางการเงินและนักลงทุนรายใหญ่มีข้อมูลอย่างละเอียดทำให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพ รวมถึงเครื่องมือเพื่ออำนวยความสะดวก เช่น การส่งคำสั่งด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์ การใช้ Super Computer ในการวิเคราะห์หาความได้เปรียบในเชิงกลยุทธ์ หรือ ความได้เปรียบด้านระยะทางของเครื่องเซิร์ฟเวอร์ ที่ช่วยให้ได้ราคาที่ได้เปรียบและรวดเร็วทันเหตุการณ์เสมอ

ความเชื่อที่ว่าจะสามารถทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำ ด้วยการ เก็งกำไร ด้วยความที่ราคาทองคำโลกนั้นเป็นตัวกำหนดปัจจัยอยู่ที่ สหรัฐ หรือ ในต่างประเทศเป็นหลักการเข้าถึงข้อมูลของนักลงทุนในไทยจึงทำได้ยาก การมีข้อมูลเชิงประจักษ์จึงแทบเป็นไปไม่ได้ เราจึงเป็นการซื้อเมื่อเกิดแรงซื้อขนาดใหญ่เกิดขึ้นก่อน ด้วยความที่เราไม่มีข้อมูลที่ดีเพียงพอ การเข้าซื้อก่อนจึงเป็นความเสี่ยง กลยุทธ์ส่วนใหญ่ที่ทำให้เกิดกำไรได้นั้น มักเป็นการซื้อตามแรงซื้อในตลาดโลก เมื่อมีแรงซ้ำนำไปแล้วเราค่อยซื้อตาม