บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) รายงานสถานการณ์น้ำมันปิดตลาดประจำวันที่ 31 ส.ค. 2558 น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับเพิ่มขึ้น 2.66 เหรียญ มาอยู่ที่ 45.22 เหรียญต่อบาร์เรล ส่วนเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 2.49 เหรียญ มาอยู่ที่ 50.05 เหรียญ โดยราคาน้ำมันยังฟื้นตัวแรงต่อเนื่องเป็นวันที่ 2 ติดต่อกัน หลังได้รับแรงหนุนหลักจากแรงซื้อกลับของนักลงทุนและกองทุนเฮดฟันด์ ที่เข้าซื้อ-ขายทำกำไร โดยตลอดสัปดาห์ น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ปรับเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 11 ถือเป็นการปิดบวกรายสัปดาห์มากที่สุดในรอบ 4 ปีครึ่ง หลังจากก่อนหน้านี้ ปรับลดลงแตะระดับต่ำที่สุดในรอบ 6 ปีครึ่ง จากความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนที่อาจส่งผลกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันดิบ รวมถึงภาวะอุปทานล้นตลาดที่ยังไม่มีท่าทีว่าจะคลี่คลายลง 

ขณะที่ Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (สิ้นสุดวันที่ 28 ส.ค.) ปรับเพิ่มขึ้นอีก 1 แท่น สู่ระดับ 675 แท่น สูงที่สุดตั้งแต่เดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และเป็นสัญญาณที่บ่งชี้ว่ากำลังผลิตของสหรัฐฯ ยังคงอยู่ในระดับสูง แม้ว่าราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำ นอกจากนี้ ยังสะท้อนให้เห็นว่า ผู้ผลิตและขุดเจาะน้ำมันดิบบางแห่งได้วางแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงเดือน พ.ค. และ มิ.ย. ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันดิบเฉลี่ยราว 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อย่างไรก็ดี หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบในเดือน ส.ค. ปรับตัวลดลงกว่าร้อยละ 20 จากเดือน มิ.ย. นักวิเคราะห์คาดว่าการปรับเพิ่มขึ้นของจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบอาจจะสิ้นสุดลงในเร็ว ๆ นี้


ด้าน เวเนซุเอลา กำลังติดต่อประเทศสมาชิกอื่น ๆ ในกลุ่มโอเปก เพื่อผลักดันการจัดการประชุมฉุกเฉินขึ้นร่วมกับรัสเซีย และมุ่งหามาตรการเพื่อกระตุ้นราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงอย่างแรง อย่างไรก็ตาม สมาชิกบางส่วนของกลุ่มโอเปก ในภูมิภาคตะวันออกกลาง ระบุว่า มีความเป็นไปได้น้อยที่โอเปก จะจัดการประชุมฉุกเฉินขึ้น หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากซาอุดีอาระเบีย ซึ่งก่อนหน้านี้ตัวแทนจากซาอุดิอาระเบีย ได้ระบุว่า ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องจัดการประชุมดังกล่าว