ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก: ทองปิดบวก $3.3 จากแรงซื้อเก็งกำไร,ตลาดขานรับรายงานประชุมเฟด

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (25 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไรหลังจากสัญญาทองคำปิดร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ สัญญาทองคำยังได้แรงหนุนจากการเปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่บ่งชี้ว่า เฟดจะใช้ความระมัดระวังในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ระดับ 1,256.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 7.6 เซนต์ หรือ 0.44% ปิดที่ 17.193 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนก.ค. เพิ่มขึ้น 5.6 ดอลลาร์ หรือ 0.59% ปิดที่ 952.9 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. เพิ่มขึ้น 7.30 ดอลลาร์ หรือ 1% ปิดที่ 768.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 3.3 ดอลลาร์ หรือ 0.26% ปิดที่ระดับ 1,256.4 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาทองคำดีดตัวขึ้นเนื่องจากนักลงทุนเข้าช้อนซื้อเก็งกำไร หลังจากที่สัญญาร่วงลงติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนขานรับรายงานการประชุมประจำเดือนพ.ค.ของเฟด โดยรายงานระบุว่า ก่อนที่เฟดจะตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปนั้น กรรมการเฟดจะพิจารณาข้อมูลต่างๆอย่างรอบคอบระมัดระวัง ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

อย่างไรก็ตาม การปรับตัวขึ้นของสัญญาทองคำเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า

CME Group ระบุว่า จากการใช้เครื่องมือ FedWatch วิเคราะห์ภาวะการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ พบว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่ามีโอกาส 83.1% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย

นอกจากนี้ แรงบวกของสัญญาทองคำยังถูกสกัดลง หลังจากสกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.03% สู่ระดับ 97.265 เมื่อคืนนี้

สำหรับปัจจัยที่ส่งผลให้สกุลเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นนั้น มาจากรายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐซึ่งระบุว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 1,000 ราย ในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 234,000 ราย โดยตัวเลขดังกล่าวเพิ่มขึ้นน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 238,000 ราย

ขอบคุณเครดิตข่าวจาก : RYT